เลือกตั้งและการเมือง

พ่อ ด.ช.โดนยิงหน้า สน.ดินแดง ยันลูกถูกทำร้ายโดยกลุ่มอื่น ไม่ใช่ผู้ชุมนุม

18 ส.ค. 2564

352 views

(18 ส.ค.) การชุมนุมของกลุ่มทะลุฟ้า ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ยุติลงเมื่อ 19.30 น.โดยไม่มีความรุนแรง เนื่องจากไม่มีการเคลื่อนขบวน แต่มีกลุ่มผู้ชุมนุมที่ส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชนขับขี่รถจักรยานยน์ มารวมตัวที่สามเหลี่ยมดินแดง โดยไม่มีแกนนำ จนเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ที่เข้าสลายการชุมนุมจนถึงช่วงเวลาเคอร์ฟิว


ในขณะที่วันนี้พ่อของเด็กอายุ 14 ปีที่ถูกยิงหน้า สน.ดินแดง เข้าแจ้งความ ระบุว่า มีกลุ่มบุคคลอื่น ที่ไม่ใช่ผู้ชุมนุม ทำร้ายร่างกาย ส่วนพ่อของเด็กอายุ 15 ที่ถูกยิงสาหัส ยืนยันด้วยว่าไม่มีคู่อริ จึงขอให้ตำรวจจับตัวคนร้ายให้ได้


โดย นายชุณหะวัณ หอมยา พ่อของน้องแฟรงค์ เด็กชายวัย 14 ปีที่ถูกยิงเข้าที่ไหล่ขวาทะลุด้านหลัง ที่หน้า สน.ดินแดง เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม เดินทางมายัง สถานีตำรวจนครบาลดินแดง พร้อมด้วย นายอาทร อยู่สมบูรณ์ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ก่อเหตุยิง ลูกชายได้รับบาดเจ็บ


พ่อน้องแฟรงค์ ยืนยันว่า จากคำให้การของลูกชาย ระบุว่าคืนวันที่ 16 สิงหาคม ขี่รถมอเตอร์ไซค์มากับเพื่อนผ่านเส้นทางหน้า สน.ดินแดง พบชายวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ยืนอยู่หน้า สน.ใช้ไม้เบสบอล เข้าตีจนรถล้ม และวิ่งหนี ก่อนจะกลับมาเอารถแล้วไปบ้านเพื่อนพบว่าถูกยิงที่ไหล่ขวา โดยก่อนมาถึง หน้า สน.ดินแดง พบกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ด้านซ้าย จึงมั่นใจว่ากลุ่มที่ทำร้ายร่างกาย เป็นบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ชุมนุม แต่เป็นกลุ่มที่ยิงลูกชายหรือไม่นั้นไม่ทราบ จึงอยากให้ตำรวจสืบหาข้อเท็จจริงอย่างเป็นธรรม


ขณะที่ นายสมชาย ไทยนอก และ นางสาวนิภาพร สมน้อย พ่อและแม่ของน้องวา เด็กชายอายุ 15 ปี ที่ถูกยิงเข้าที่คอด้านซ้าย เหตุเกิดที่หน้า สน.ดินแดง ยังคงเผ้าติดตามอาการของลูกที่ยังอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งอาการยังโคม่า ไม่สามารถผ่าตัดเอาหัวกระสุนที่ยังฝังอยู่ภายในได้ เพราะจะกระทบกระเทือนกับก้านสมอง แต่พ่อและแม่ยังมีความหวังให้ลูกได้ฟื้นขึ้นมา ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพใดก็พร้อมดูล โดยยืนยันว่าวันเกิดเหตุ ลูกชายบอกว่าจะมาร่วมชุมนุม โดยเดินทางมาด้วยรถไฟฟ้าจากบ้านที่สมุทรปราการ ซึ่งแม่ได้ห้ามไว้แล้ว เพราะห่วงความรุนแรง ยืนยันว่าลูกชายไม่มีคู่อริ หรือความจำเป็นใดที่ต้องมาทะเลาะวิวาทหน้า สน.ดินแดง จึงขอความเป็นธรรมให้ลูกชายด้วย


สรุปจากคำให้การของเด็กวัย 14 ปี ทำให้พอลำดับเหตุการณ์ว่า มีกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่ม ที่หน้า สน.ดินแดงในช่วงเวลาประมาณ 20.30 น. ของคืนเกิดเหตุ กลุ่มหนึ่งเป็นวัยรุ่นชายประมาณ 10 คน อยู่หน้า สน.ดินแดง แล้วทำร้ายร่างกายเด็ก 14 ปี ที่มากับเพื่อนด้วยรถมอเตอร์ไซค์ โดยเด็ก 14 เห็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่ทางซ้ายตรงข้าม สน.


และภาพในกล้องวงจรปิดที่นายรังสิมันต์โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล มาตรวจสอบ พบกลุ่มผู้ชุมนุมที่วิ่งหนีมาจากหน้าโรงแรมข้าง สน.ดินแดง แล้วเด็กอายุ 15 ที่ถูกยิงที่คอล้มลงตรงจุดที่มีกองเลือด


ในขณะภาพไลฟ์สดจากสำนักข่าว The Reporters ในเวลา 21.30 น.มีการรายงานพบกลุ่มผู้ชาย แต่งกายเหมือนผู้ชุมนุม ใส่หมวกกันน็อค รวมตัวอยู่ใน สน.ดินแดง ในขณะที่ตำรวจควบคุมฝูงชนนำกำลังเข้ามาคุมพื้นที่ หน้า สน.โดยที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ไม่ได้ดำเนินการใดๆ จึงต้องตรวจสอบด้วยว่า คนกลุ่มนี้เป็นใคร แล้วทำอะไรอยู่ใน สน.ดินแดงในเวลานั้น


ส่วนการชุมนุมของกลุ่มทะลุฟ้า นัดหมายที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในเวลา 16.00 น. ทำกิจกรรมสันติวิธี ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เช่นการเผาหุ่นผ้าสัญลักษณ์ผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 โดยในเวลา 18.00 น. ได้มีการยืนตรงเคารพธงชาติ พร้อมบีบแตรรถเท่าความยาวของเพลงชาติ และได้ร่วมกันยืนสงบนิ่ง 1 นาที ไว้อาลัยให้กับประชาชนที่เสียชีวิตจากการบริหารงานที่ผิดพลาดล้มเหลวของรัฐบาล ก่อนจะยุติการชุมนุมในเวลา 19.30 น.โดยกลุ่มอาชีวะ มายืนยันด้วยว่าไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมที่สามเหลี่ยมดินแดง


ซึ่งขณะที่กลุ่มทะลุฟ้าจัดกิจกรรมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยยังไม่ยุติ ในเวลา 17.00 น.ก็เริ่มมีผู้ชุมนุมขับขี่รถจักรยานยนต์มาที่สามเหลี่ยมดินแดง โดยไม่มีแกนนำ ไม่มีการนัดชุมนุมมาบ้านนายกรัฐมนตรี ที่หน้ากรมทหารราบที่ 1 และเมื่อทางตำรวจนำตู้คอนเทนเนอร์มาขวางกั้น ก็เริ่มมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่หลังแนว และพากันไปอีกฝั่งของถนน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเยาวชน อายุตั้งแต่ 14-19 ปี ขี่มอเตอร์ไซค์


จากการสอบถามพวกเขาว่าทำไมถึงมาที่นี่ทั้งๆ ที่จะมีการสลายการชุมนุมรุนแรง พวกเขาบอกว่ามาเพื่อขับไล่พลเอกประยุทธ์ และไม่เห็นด้วยกับตำรวจที่ใข้ความรุนแรง ก่อนที่ตำรวจควบคุมฝูงชนนำกำลังมายึดพื้นที่สามเหลี่ยมดินแดง และกระชับพื้นที่ไปตามถนนดินแดง จนถึงแยกประชาสงเคราะห์พร้อมกับการยิงแก๊สน้ำตา ทำให้ชาวแฟลตดินแดง ออกมาขอให้ตำรวจระมัดระวังไม่ให้กระทบกับชุมชน


การกระชับพื้นที่มีต่อเนื่องถึง 21.00 น.ตำรวจใช้ชุดเคลื่อนที่เร็วขึ้นรถยนต์ไปติดตามกลุ่มผู้ชุมนุมที่ใข้รถจักรยานยนต์ไปตามซอยต่างๆ

คุณอาจสนใจ

Related News