เปิดสาเหตุ ดีเอสไอคืนลัมโบร์กินีของกลางให้อดีต ผกก.โจ้

รถยนต์ซูเปอร์คาร์ลัมโบร์กินี อเวนทาดอร์ ที่อดีตผู้กำกับการโจ้ เคยครอบครอง เป็นหนึ่งในรถที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีคำสั่งอายัดไว้ตรวจสอบและต่อมาได้เสนอให้อัยการคดีพิเศษริบของกลาง พร้อมดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องฐานนำเข้าหลบเลี่ยงภาษี ซึ่งอัยการคดีพิเศษมีความเห็นสั่งฟ้อง 7 คน จากจำนวน 8 คน ส่วนลัมโบร์กินี คันนี้ที่ดีเอสไอเสนอริบเป็นกลางนั้น มีความเห็นจากอัยการคดีพิเศษว่าไม่ใช่ทรัพย์ที่มีไว้เพื่อกระทำผิด ทำให้พนักงานสอบสวน คืนรถให้อดีตผู้กำกับการโจ้ ได้

รถยนต์ลัมโบร์กินี รุ่นอเวนทาดอร์ ที่อดีตผู้กำกับการโจ้ มีชื่อครอบครอง เป็นหนึ่งในรถยนต์กว่า 80 คัน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษอายัดไว้เมื่อปี 2560 พร้อมดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องในธุรกิจนำเข้ารถหรู และเจ้าหน้าที่ศุลากรตำแหน่งพนักงานตรวจบ่อย บางคน ฐานเกี่ยวข้องกับการสำแดงราคาเท็จ หวังหลบเลี่ยงภาษีนำเข้ารถจากต่างประเทศ

รถของกลางกว่า 80 คัน ดีเอสไออายัดไว้ให้ครอบครองได้แต่ห้ามซื้อขายเปลี่ยนมือ พร้อมกับทะยอยส่งสำนวนให้พนักงานอัยการคดีพิเศษ โดยมีข้อมูลว่าส่งสำนวนไปแล้วราว 40 คัน แยกเป็นคันละสำนวน รวมเป็น 40 สำนวน เหลืออีกราว 40 สำนวนที่ยังรวบรวมหลักฐานทยอยส่งอัยการคดีพิเศษ

รถลัมโบกินีที่อดีตผู้กำกับโจ้ครอบครอง เป็น 1 ในกว่า 40 สำนวน ที่พนักงานสอบสวนนำส่งพนักงานอัยการคดีพิเศษ ในความผิดหลักตาม พรบ.ศุลากร 2560 พรบ.ภาษีสรรพสามิต 2560 ซึ่งขณะนั้นชื่อที่ใช้ครอบครองรถคันนี้คือนายธิติสรรค์ อุทธนพล ไม่มียศตำรวจ ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด แต่หากใช้ยศในการครอบครอง จะอยู่ พันตำรวจโท

เฉพาะรถคันนี้ ดีเอสไอส่งสำนวนเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเป็นผู้สั่งซื้อรถคันนี้จากอิตาลี บริษัทผู้รับมอบอำนาจให้ไปปล่อยของ หรือรับของที่ท่าเรือเพื่อชำระอาการ และบริษัทผู้จัดจำหน่าย รวม 8 คน โดยดีเอสไอ เสนอความเห็นท้ายรายการสอบสวนอ้างอิง มาตรา 166 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร 2560 เห็นควรขอให้ศาลมีคำสั่งริบรยนต์ของกลางในคดี และดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องทั้ง 8 คน

จากนั้นอัยการวินิจฉัยว่าบริษัทของผู้ต้องหา 7 คนเกี่ยวข้องในการนำรถเข้ามาในราชอาณาจักรสำแดงราคาต่ำ จึงสั่งฟ้อง 7คน ส่วนอีก 1คน สั่งไม่ฟ้อง แต่ดีเอสไอ เสนอความเห็นแย้งพร้อมหลักฐานให้สั่งฟ้องทั้ง 8 ขณะนี้อยู่ระหว่างรออัยการสูงสุดชี้ขาดความเห็นความ

อย่างไรก็ตาม ลัมโบกินี อเวนทาทอร์คันนี้ สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีพิเศษ 4 มีหนังสือ อส. 0017.4/4 เมื่อ 5 มกราคม 2564 ถึงดีเอสไอเจ้าของสำนวนว่า "พนักงานอัยการมีความเห็นและคำสั่งในคดีแล้ว และมีของกลางที่พนักงานสอบสวนยึดไว้ตามบัญชีของกลางที่ส่งมาด้วย ซึ่งไม่ใช่ทรัพย์ที่มีไว้เป็นความผิดหรือได้ใช้ หรือมีไว้เพื่อกระทำผิด หรือได้มาโดยกระทำผิด จึงให้พนักงานสอบสวนจัดการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจาณาความอาญามาตรา 85

การแถลงของดีเอสไอก่อนหน้านี้ ยืนยันว่าความเห็นดังกล่าวของพนักงานอัยการ มีดุลพินิจสั่งฟ้องผู้ต้องหา แต่ไม่ขอให้ศาลริบของกลางคือรถยนต์ ตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ พนักงานสอบสวนจึงคืนรถของกลางให้ผู้มีสิทธิตามกฎหมาย

ด้วยความเห็นและเส้นทางดังกล่าวทำให้รถหรู คันนี้ถูกคืนกลับมาให้ผู้ครอบครอง คืออดีตผู้กำกับการโจ้ เมื่อมกราคมปีนี้ และต่อมาเดือนกุมภาพันธ์ ก็เปลี่ยนผู้ครอบครอง