สังคม
เดินหน้าเปิด "กรุงเทพ แซนด์บ็อกซ์" 1 พ.ย.นี้ ททท.วางแนวทางเที่ยวไทยแบบ "เซ็กซี่"
9 มี.ค. 2565
117 views
ททท.กำหนดแนวทางเปิดประเทศตามประกาศของ ศบค. พร้อมกลยุทธ์ใหม่ ขณะที่ กรุงเทพฯ เดินหน้าเตรียมแผนเปิดเมือง 1 พ.ย.นี้ ตามนโยบายเปิดประเทศ 120 วัน
กรุงเทพมหานครเมืองหลวงอันดับ 1 ของไทย ที่อดีตเคยถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากเป็นอันดับ 1 ของโลก ปัจจุบันกลายสภาพเป็นเมืองที่เงียบเหงา หลังปิดประเทศมานานกว่า 18 เดือนจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่เมื่อความหวังของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้เกิดความหวังในการเปิดประเทศตามมา
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. จึงได้กำหนดแนวทางการเปิดประเทศในระยะต่อไปตามประกาศของ ศบค. ที่เริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งกรุงเทพมหานครคือเป้าหมายต่อไปในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ตามนโยบายเปิดประเทศ 120 วัน แบบ Step-by-Step
มาตรการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยและมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หรือ SHA และ SHA+ จะถูกนำมาปรับใช้กับธุรกิจการท่องเที่ยว ตลอดช่วงเดือนตุลาคมจนถึงธันวาคม ในลักษณะเดียวกันกับที่ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และ กระบี่
ขณะที่ภาพรวมของประเทศตลอดปี 2563 พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงไปถึง 99.98% ส่วนนักท่องเที่ยวไทยลดลง 84.5% ทำให้มีกิจการต้องปิดตัวชั่วคราวไปมาก แต่หากปี 2564 มีนักท่องเที่ยวเข้ามา
ทาง ททท. ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีรายได้รวมจากการท่องเที่ยวประมาณ 850,000 ล้านบาท แบ่งเป็นจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3 แสนล้านบาท และนักท่องเที่ยวไทยราว 160 ล้านคน อีก 550,000 ล้านบาท
ขณะที่ในอนาคต ททท.ได้วางแนวทางการท่องเที่ยวไทยไว้แบบ "เซ็กซี่" คือ ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม สร้างประสบการณ์ และสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่า เน้นไปที่กลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ ให้การท่องเที่ยวไทยกลับมาคึกคักอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กำหนดเงื่อนไข 3 ข้อ ของการเปิด กรุงเทพฯ แซนด์บ็อกซ์ ไว้ว่า
1.ประชากรของกรุงเทพมหานครต้องได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 70% ขึ้นไป และต้องรออีกอย่างน้อย 14 วัน เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันตามหลักการแพทย์ โดยคาดว่าจะครบตามเป้าหมายในวันที่ 22 ตุลาคมนี้
2.ผู้ติดเชื้อต้องมีจำนวนลดลง ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ราว 1,200 คนต่อวัน จากเดือนที่แล้วที่ราว 2,000-3,000 คน
3.ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลต้องลดลง
ข้อมูลล่าสุด วันที่ 6 ตุลาคม 2564 มีประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครได้รับวัคซีนสะสมรวมกว่า 12 ล้าน 7 แสนโดส แต่มีผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสราว 4 ล้าน 2 แสนคน คลอบคลุมประชากรประมาณ 55% ยังเหลืออีก 15% หรือ ราว 1 ล้านคน จึงจะครบ 70 % ขณะที่ศักยภาพในการฉีดอยู่ที่ ราว 5- 6 หมื่นคนต่อวัน
หากความน่าจะเป็นทั้งหมดเป็นไปตามเงื่อนไข 3 ข้อ ที่กรุงเทพมหานครกำหนดไว้ ก็อาจได้เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มทยอยเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยมากขึ้น ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป