พ่อค้าร้อง! ถูกยัดเยียดให้กู้เงิน เรียกดอกโหด เกือบ 100%

ยัดเยียดกู้ เก็บดอกโหดเกือบ 100% ใน7วัน

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 11 ต.ค. ที่ล้านสุดคั่ว ณ บางกอก ร้านกาแฟน้ำผลไม้ร้านเดียวในประเทศไทย นายสิปปนนท์ ผลสมภพ อายุ 43 ปี พ่อค้าบาร์บีคิว เข้าร้องเรียนสื่อมวลชน กรณีถูกยัดเยียด ให้กู้เงินด่วน

โดยนายสิปปนนท์ เผยพฤติการณ์ว่า ขณะเล่นเฟซบุ๊กตามปกติ จู่ๆมีโฆษณาโลโก้ธนาคารสีม่วง เกี่ยวกับเงินกู้ จึงเข้าไปเพื่อจะเช็คสเตทเม้นท์ตัวเอง เพราะตนก็เป็นลูกค้าของธนาคารนี้ และคิดว่าเป็นเว็บไซต์ของธนาคาร เมื่อทำการใส่ประวัติทั่วไปและถ่ายรูป ซึ่งเป็นปกติของการทำธุรกรรมกับธนาคารเพื่อยืนยันตัวตน เกิดเอะใจหน้าสุดท้าย ที่ให้เลือกจำนวนเงินการกู้ ซึ่งความจริงแล้วไม่ได้จะกู้ แค่ต้องการเช็คสเตทเม้นท์เท่านั้น จึงกดย้อนกลับไปหน้าแรก และกดออก

ผ่านไป 5 ชั่วโมง มีบัญชีของธนาคารกรุงไทย โอนเงินเข้ามา 3 ครั้ง 3 บัญชีในนามบุคคล ซึ่งชื่อแตกต่างกัน รวมเป็นยอดเงิน 1,740 บาท ,1,575 บาท และ 1,860 บาท

จากนั้นพยายามติดต่อกลับ เพื่อโอนเงินคืน แต่ไม่มีช่องทางใดที่สามารถติดต่อได้ ส่วนเงินที่โดนมา ก็ไม่กล้าใช้กลัวเป็นหนี้ พยายามติดต่อทุกวัน แต่เหมือนเป็นการสื่อสารด้านเดียว ไม่สามารถติดต่อได้

เมื่อเวลาผ่านไป 7 วัน มีพนักงานโทรศัพท์มาทวงเงิน ว่าตนได้ยืมเงิน 3,180 บาท โดยคิดดอกเบี้ยตั้งแต่ยืม จนชนงวดต่อ 7 วัน เป็นเงิน 1,440 บาท คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 83 ต่อ 7 วัน จึงปฏิเสธว่าไม่ได้ทำการกู้ยืมใคร แล้วไปแจ้งความที่ สน.บางเสาธง

มีอยู่ 1 บัญชี ที่เจ้าหน้าที่แนะนำ ว่าให้โอนคืน เท่ากับเงินที่โอนเข้ามา ส่วนอีก 2 บัญชี ยังไม่ยอมให้โอนเงินต้นคืน ตนไม่ได้เดือดร้อน และไม่กล้าถอนเงินมาใช้แต่อย่างใด

ทั้งนี้อยากฝากเตือนคนอื่นๆ อย่าหลงเชื่อโฆษณา และอย่าเผลอเข้าไปให้ข้อมูลส่วนตัวง่ายๆ อาจจะต้องเสียเงินโดยใช่เหตุ และเสียเวลาการใช้ชีวิตประจำวัน

นอกจากนี้ยังมีนายธวัช อยู่สำราญ อายุ 52 ปี พนักงานบริษัทเอกชน หนึ่งในเหยื่อของแก๊งยัดเยียดกู้ เปิดเผยด้วยว่า เล่นเฟซบุ๊กตามปกติมีโฆษณาเด้งขึ้นมา ว่าท่านได้รับเครดิตกู้เงินได้ 200,000 บาท เมื่อติดตั้งแอปพลิเคชั่น "สินเชื่อฉับไว" แล้วลงทะเบียน จากนั้นป้อนข้อมูลต่างๆจนครบแล้ว ในแอปฯ โชว์ว่าคุณได้เครดิต 1,500 บาท แต่ไม่นานก็มีเงินโอนเข้ามาในนามชื่อบริษัท ด้วยความตกใจจึงรีบติดต่อคอลเซนเตอร์ ตามช่องทางต่างๆ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เหมือนการสื่อสารด้านเดียว และไม่กล้าใช้เงินดังกล่าว

ผ่านไป 5 วัน มีคนโทรมาทวงเงิน 2,035.49 บาท โทรมาทุกชั่วโมง ในขณะที่กำลังทำงาน โทรไปหาภรรยา บอกว่าตนเป็นหนี้ ด้วยความรำคาญจึงยอมโอนเงินคืนไปให้ คิดว่าเสียแค่ห้าร้อยกว่าบาท ให้จบๆไป โดยไม่ได้ไปแจ้งความแต่อย่างใด การที่ออกมาเปิดเผยเพราะว่าไม่อยากให้เสียรู้ยอดเงินไม่มาก แต่หลายๆคนก็น่าจะมหาศาลอยู่เหมือนกัน