สังคม
ทำสัญญาแล้ว! ยาต้านโควิด 'โมลนูพิราเวียร์' คาดเข้าไทย ธ.ค.นี้ ยันราคาต่อคอร์สถูกกว่าสหรัฐฯ
9 มี.ค. 2565
80 views
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ระบุถึงความคืบหน้า ยาโมลนูพิราเวียร์ ว่า กรมการแพทย์ได้มีการพูดคุยกับบริษัทต่างๆเกี่ยวกับยาต้านไวรัสที่อยู่ในต่างประเทศ ซึ่งยาโมลนูพิราเวียร์ เป็นหนึ่งในยาที่ให้ความสนใจและได้มีการพูดคุย
กรมการแพทย์ได้หารือกับ MSD ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Merck ตั้งแต่ช่วงกรกฎาคมที่ผ่านมา จากนั้น ช่วงเดือนสิงหาคม ถึง กันยายนได้ มีจัดหาจัดซื้อและสั่งจองด้วยวาจา
ช่วงกันยายนถึงตุลาคม ได้มีการทำสัญญาซื้อขายยาโมลนูพิราเวียร์ ซึ่งมีข้อตกลงบางส่วนที่ต้องเก็บเป็นความลับ โดยได้ทำการเซ็นสัญญาเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยอยู่ระหว่างเตรียมเอกสารขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาที่ประเทศสหรัฐอเมริกาก่อน
จากนั้นก็จะเตรียมขึ้นทะเบียนกับ อย.ไทย ประมาณเดือนพฤศจิกายน คาดว่าประเทศไทยจะได้ยาโมลนูพิราเวียร์ มาสำรองใช้ ประมาณเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตาม ยังมีอีก 1-2 บริษัท รวมถึงไฟเซอร์ ที่ได้มีการทดลองวิจัยยาต้านไวรัสโควิด -19
สำหรับกลุ่มอาการที่ใช้ยา คือผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มอาการน้อยถึงปานกลาง ควรจะมีปัจจัยเสี่ยงร่วมด้วย ส่วนหญิงตั้งครรภ์ ยังไม่แนะนำให้ใช้ยาชนิดนี้ เบื้องต้นผู้ป่วยโควิด จะได้รับยาคอร์สนึง 40 เม็ด / กินเช้าเย็น รวมวันละ 8 เม็ด / เม็ดละ200 มิลลิกรัม
แต่ทั้งนี้ในไทย จะต้องมีการประชุมหารือกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน ถึงการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ว่าจะถูกนำมาแทนยาฟาวิพิราเวียร์หรือไม่ หรือจะใช้รักษาควบคู่กันไป
ส่วนที่มีรายงานว่าการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์คอร์สละ 24,000 บาท ในต่างประเทศ นั้น นายแพทย์ สมศักดิ์ อธิบายว่า เป็นการคำนวณราคาในประเทศที่มีรายได้สูง
ส่วนของประเทศไทย ราคาจะถูกกว่าแน่นอน แต่ในส่วนของการเปิดเผยราคาที่ทำการซื้อขาย เบื้องต้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ในข้อตกลงสัญญาซื้อขายกับบริษัทผู้ผลิต แต่ยืนยันว่า ราคาจะถูกกว่าสหรัฐฯแน่นอน
โมลนูพิราเวียร์ เป็นยาต้านไวรัสโควิด ชนิดเดียวที่ทำออกมาตอนนี้ หลักการคือ ออกฤทธิ์ยับยั้งเชื้อไวรัสโดยตรงไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิม หรือสายพันธุ์ใหม่ที่มีอยู่ขณะนี้ ยาโมลนูพิราเวียร์พิสูจน์แล้วว่า สามารถยับยั้งไวรัสไม่ให้เพิ่มจํานวนได้
ทั้งนี้ได้มีการวิจัยแบบสุ่มระยะที่ 3 พบว่าผู้ป่วยโควิดที่มีอาการเล็กน้อย และปานกลาง และไม่ได้รับวัคซีน ได้ให้ยาภายใน 5 วันตั้งแต่วันที่เริ่มมีอาการ โดยผู้ป่วยทุกรายจะต้องมีปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอาการรุนแรงอย่างน้อย 1 ปัจจัย เช่น โรคประจำตัวร่วมด้วย อย่างใดอย่างหนึ่ง ร่วมกับมีอาการป่วยไม่รุนแรง
ข้อมูลจากการวิเคราะห์เบื้องต้นในการทำวิจัยกับผู้ป่วย 775 คน โดยให้ยาโมลนูพิราเวียร์ 385 คน และยาหลอก 377 คน ในปริมาณ 800 มิลลิกรัม วันละ 2 เวลา เช้า-เย็น เป็นระยะเวลา 5 วัน พบว่าลดความเสี่ยงในการนอนโรงพยาบาลและเสียชีวิตภายใน 29 วันได้ร้อยละ 50 โดยในกลุ่มที่ได้รับยาจริง พบว่า ไม่มีการเสียชีวิตเลย
ทั้งนี้ แผนดำเนินการยาโมลนูพิราเวียร์ หากได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาให้ใช้เป็นกรณีฉุกเฉินได้ ก็จะเป็นยาต้านโควิด-19 ชนิดเม็ดตัวแรกที่จะได้รับการรับรองจากทางการสหรัฐ
โดย Merck ผู้ผลิต ตั้งเป้าผลิตยาให้ได้สำหรับ 10 ล้านคนภายในปีนี้ และมีแผนการทำสัญญากับฐานการผลิตยาหลายแห่งในต่างประเทศ เช่น อินเดีย เพื่อให้ได้ยาโมลนูพิราเวียร์ที่มีราคาถูกให้กับประเทศที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/7E5auC7XOPk
แท็กที่เกี่ยวข้อง ยาโมลนูพิราเวียร์ ,ยาต้านโควิด ,สมศักดิ์ อรรฆศิลป์