‘ลาว’ ผวาโควิด “เดลตา พลัส” ระบาดเวียงจันทน์ สั่งล็อกดาวน์ห้ามเดินทางไปจังหวัดที่ยอดผู้ติดเชื้อสูงสุด

วันนี้(20 ก.ย.) ด้าน รัดตะนะไช เพ็ดสุวัน อธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อ สังกัดกระทรวงฯ แถลงข่าวว่า ลาวตรวจพบผู้ป่วยจากต่างประเทศเพิ่ม 52 ราย และผู้ป่วยติดเชื้อในท้องถิ่นเพิ่ม 162 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมง ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 19,399 รายแล้ว

ทั้งนี้ เวียงจันทน์ตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มสูงอย่างมากจากกรณีการระบาดที่โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าแห่งหนึ่ง ทำให้ทางการตัดสินใจประกาศล็อกดาวน์เมืองหลวงเต็มรูปแบบตั้งแต่ช่วงบ่ายวันอาทิตย์ (19 ก.ย.) จนถึงวันที่ 30 ก.ย

ลาวมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสม 19,399 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 16 ราย เมื่อนับถึงวันจันทร์ (20 ก.ย.) ขณะจำนวนผู้ป่วยหายดีและออกจากโรงพยาบาลรวมอยู่ที่ 15,128 ราย

ทั้งนี้มีการพบการระบาดภายในชุมชนเพิ่มต่อเนื่องในเวียงจันทน์ โดยมีการยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด-19สายพันธุ์ "เดลตา พลัส" ซึ่งกลายพันธุ์มาจากสายพันธุ์เดลตา และสามารถแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็วในกลุ่มผู้มีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวก

จึงประกาศมาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน ให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน ยกเว้นไปซื้ออาหาร ยา หรือไปโรงพยาบาล ห้ามการรวมกลุ่ม รวมถึงการประกอบพิธีทางศาสนา ห้ามออกกำลังกายนอกบ้าน ห้ามขายของริมทาง

นอกจากนี้ยังได้ห้ามการเดินทางไป 7 จังหวัดที่มีการระบาดเช่นกัน ส่วนผู้ที่เดินทางเข้ากรุงเวียงจันทน์ต้องกักโรค 14 วัน ผู้ฝ่าฝืนมาตรการล็อกดาวน์จะถูกปรับ 3 ล้านกีบ (ราว 10,000 บาท) ถือว่าสูงมากเพราะประชากรมีรายได้ต่อหัวต่อปีที่ 87,000 บาทเท่านั้น