Test copy word#1

ฉะเชิงเทรา-ภาพจากกล้องวงจรปิดในภายในถนนหมู่บ้านกาญจนาธานี บันทึกภาพเหตุการณ์ที่รถจักรยานยนต์ขี่ตามกันมา ก่อนที่รถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่ขี่ตามมา จะใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์คันหน้า จนรถพุ่งตกลงไปในป่าหญ้าข้างทาง ทั้ง 2 คัน เมื่อพลเมืองดีบริเวณนั้นเห็น จึงมาช่วยกันดึงรถขึ้นโดยไม่ทราบว่าเป็นคนร้าย ก่อนที่คนร้ายอายุประมาณ 25-30 ปี จะรีบขึ้นค่อมรถสตาร์ทเครื่องขี่หลบหนีไป



น.ส.กริสสรา ศรีสมศักดิ์ อายุ 29 ปี เปิดเผยว่า ตนเองเลิกงานมากำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับเข้าบ้านพักภายในหมู่บ้านกาญจนาธานี ก่อนเกิดเหตุ ตนเองได้แวะร้านค้าข้างทาง จากนั้นสังเกตว่ามีรถจักรยานยนต์ของคนร้าย ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีเทาดำ ผู้ขับขี่ใส่หมวกกันน็อก มีแมสปิดหน้า ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขาสั้น ขี่รถติดตามตนมาภายในซอย



จากนั้นคนร้ายพยายามถีบรถของตน แต่ถีบไม่โดน ตนเองจึงรีบเร่งเครื่องรถจักรยานยนต์หนีคนร้าย เพราะอีกประมาณ 300 เมตร ก็จะถึงบ้านพักของตน จนมาถึงทางโค้งพอตนเองชะลอรถ คนร้ายก็ถีบรถจักรยานยนต์ของตนจนเสียหลัก ตกลงไปภายในป่าหญ้าข้างทาง



โชคดีในจังหวะนั้นมีเด็กยืนเล่นกันอยู่ จึงตะโกนร้องให้ชาวบ้านมาช่วยกัน ทำให้คนร้ายไม่กล้าทำอะไรตน เมื่อชาวบ้านมาถึงก็คิดว่าเป็นอุบัติเหตุ จึงช่วยกันนำรถคนร้ายขึ้นมาคันแรก ตนเองก็ไม่กล้าเสียงดังหรือบอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะอยู่ในอาการตกใจ และจุดเกิดเหตุมีเพียงเด็กและผู้หญิงที่เป็นพลเมืองดีมาช่วยกันยกรถขึ้น



เมื่อคนร้ายมีชาวบ้านช่วยกันยกรถขึ้นมาแล้ว ก็รีบสตาร์ทเครื่อง ขี่หลบหนีไป ตนเองก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่คนร้ายต้องการนั้นคือทรัพย์สินหรือต้องการสิ่งอื่นใดกันแน่ เพราะตนเองไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร โชคดีที่ตนเองไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่สามีของตนก็จะพาไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทราในคืนนี้



ขณะที่นายเอกชัย เงาศรี อายุ 56 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้าน เปิดเผยว่า เมื่ออาทิตย์ก่อน คนร้ายคนนี้ได้ขี่รถเข้ามาก่อเหตุภายในหมู่บ้าน ซึ่งเหยื่อก็เป็นหญิงสาว โชคดีที่มีคนผ่านมาเห็น คนร้ายจึงรีบขี่รถหลบหนีไป ลักษณะพฤติกรรมและรถจักรยานยนต์ที่ใช้ เป็นชนิดเดียวกันและสีเดียวกัน



จึงมั่นใจว่าน่าจะเป็นคนร้ายคนเดียวกัน ซึ่งหญิงเจ้าทุกข์คนก่อนก็ไม่ได้เดินทาไปแจ้งความ เพราะว่าไม่มีทรัพย์สูญหายหรือได้รับอันตรายแต่อย่างใด จนคนร้ายชะล่าใจกลับเข้ามาก่อเหตุภายในหมู่บ้านนี้อีกครั้ง



จึงอยากฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดี เพราะถือว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุมีพฤติกรรมอุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฏหมาย ชาวบ้านในระแวกต้องเพิ่มความระมัดระวังตัวให้มากยิ่งขึ้น เพราะคนร้ายกลับเข้ามาก่อเหตุซ้ำ